ระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ประธานกรรมการบริหารสมาพันธ์ผู้นำเยาวชนแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมและอภิปรายเสนอความคิดเห็นในการประชุมเยาวชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน "Asia Pacific Forum for Sustainable Development (APFSD)" ครั้งที่ 12

 

รายงานการเข้าร่วมการประชุมเยาวชนการพัฒนาที่ยั่งยืน "Asia Pacific Forum for Sustainable Development (APFSD)" ครั้งที่ 12

1. บทนำ

การประชุมเยาวชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน "Asia Pacific Forum for Sustainable Development (APFSD)" ครั้งที่ 12 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ ZOOM MEETING โดยมีการสนับสนุนจากศูนย์ทรัพยากรและวิจัยเอเชียแปซิฟิกสำหรับผู้หญิง (ARROW) ร่วมกับ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ

ในฐานะ ประธานกรรมการบริหารสมาพันธ์ผู้นำเยาวชนแห่งประเทศไทย และ ผู้แทนเยาวชนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ข้าพเจ้า นายสุพชระ มั่นดี ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด เสนอข้อคิดเห็น และร่วมกำหนดแนวทางในการส่งเสริมบทบาทของเยาวชนในกระบวนการพัฒนาที่ยั่งยืน

2. วัตถุประสงค์ของการประชุม 

1. สร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการกำหนดและขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับภูมิภาค
   เพื่อให้แน่ใจว่า เสียง มุมมอง และประสบการณ์ของเยาวชน ได้รับการบรรจุอย่างมีความหมายในกระบวนการกำหนด ทบทวน และดำเนินนโยบายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบของ APFSD (Asia-Pacific Forum on Sustainable Development) และ HLPF (High-Level Political Forum) ปี 2025

2. สานต่อพลังขับเคลื่อนจากการประชุมสุดยอด Summit of the Future
   ผลลัพธ์จากการหารือใน APFSD Youth Forum จะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการเตรียมการของเยาวชนในระดับภูมิภาคเพื่อนำเสนอในที่ประชุมสำคัญ เช่น

   • การประชุมระดับโลกว่าด้วยการเงินเพื่อการพัฒนา (FfD4) ครั้งที่ 4
   • กระบวนการ Beijing+30 ว่าด้วยสิทธิและความเสมอภาคทางเพศ
   • การประชุมสุดยอดด้านสังคมโลกครั้งที่ 2 ในปี 2025
   • ตลอดจนเวทีสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

3. รักษาพื้นที่การประชุมเยาวชน APFSD Youth Forum และขับเคลื่อน SDGs ด้วยแนวทางที่ครอบคลุมและใช้หลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์
   การประชุมนี้จะเป็นเวทีสำหรับเยาวชนในการหารือเกี่ยวกับ แนวทางการดำเนินงาน SDGs ที่เน้นความยั่งยืน ความครอบคลุม และอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ตามแนวคิด “เร่งผลักดันโซลูชันที่ยั่งยืน ครอบคลุม และอิงหลักฐาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (SDGs) ภายในปี 2030 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก”

4. ประเมินความก้าวหน้าและอุปสรรคของ SDGs ที่อยู่ระหว่างการทบทวนเชิงลึก
   การประชุมจะเป็นเวทีให้เยาวชนได้ประเมิน ความก้าวหน้า ช่องว่าง และความท้าทาย ในการดำเนินงานของ SDGs ที่จะถูกทบทวนในปี 2025 ได้แก่ SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี), SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ), SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่เหมาะสม), SDG 14 (การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล) และ SDG 17 (หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา) พร้อมทั้งวิเคราะห์ อุปสรรคเชิงโครงสร้างและระบบ ที่ขัดขวางการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการพัฒนาที่ยั่งยืน

5. พัฒนา "Youth Call to Action" เพื่อนำเสนอข้อเรียกร้องของเยาวชนในระดับภูมิภาค ระดับอนุภูมิภาค และระดับชาติ
   เพื่อให้ข้อเสนอของเยาวชนถูกรวมอยู่ในกระบวนการหารือของ APFSD และ HLPF ปี 2025 รวมถึงมีผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายในระดับนานาชาติอย่างเป็นรูปธรรม

3. บทบาทของข้าพเจ้าในฐานะผู้แทนเยาวชน

ในการประชุม Asia Pacific Forum for Sustainable Development (APFSD) ครั้งที่ 12 ข้าพเจ้าได้รับเกียรติให้เข้าร่วมในฐานะ ผู้แทนเยาวชนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และ ประธานกรรมการบริหารสมาพันธ์ผู้นำเยาวชนแห่งประเทศไทย โดยมีบทบาทสำคัญดังต่อไปนี้

3.1 ผลักดันให้มีการสร้างเครือข่ายเยาวชนระดับภูมิภาค

ข้าพเจ้าได้เสนอให้มีการจัดตั้ง "Asia-Pacific Youth Sustainability Council (สภาเยาวชนเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อความยั่งยืน)" ซึ่งเป็นเครือข่ายเยาวชนที่มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนความรู้ และสนับสนุนโครงการเพื่อความยั่งยืน เช่น การสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล แนวปฏิบัติที่ดี และบทเรียนที่ได้รับเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และจัดกิจกรรมอบรมและสัมมนาเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ของเยาวชน อีกทั้งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาโดยเยาวชน เพื่อสร้างนวัตกรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน โดยเครือข่ายนี้จะช่วยให้เยาวชนจากหลากหลายประเทศสามารถ ร่วมมือกันในการพัฒนานโยบายและโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

 3.2 บทบาทในการแสดงความเห็นสำหรับการประชุมในหัวข้อ " SDG 14: Life Below Water ( ชีวิตใต้น้ำ ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ) หัวข้อย่อย Grassroots Initiatives และ Innovation (การริเริ่มโดยชุมชนและการสร้างสรรค์นวัตกรรม) "

ข้าพเจ้าเชื่อว่า SDG 14: Life Below Water มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่การปกป้องสิ่งมีชีวิตทางทะเลเท่านั้น แต่คือการปกป้องพวกเราทุกคน มหาสมุทรเป็นหัวใจสำคัญของโลก ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งอาหารและทรัพยากรของผู้คนนับพันล้าน แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและช่วยรักษาสมดุลของสภาพภูมิอากาศ แต่ในปัจจุบันมหาสมุทรของเรากำลังเผชิญกับวิกฤติร้ายแรง

🌊 มลพิษพลาสติกเพิ่มขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
🐠 การทำประมงเกินขนาดส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
🔥 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำลายระบบนิเวศทางทะเลอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิต ความมั่นคงทางอาหาร และเศรษฐกิจของเราทุกคน

    การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากรากฐาน โครงการริเริ่มโดยเยาวชนและชุมชนท้องถิ่นเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลง  ตัวอย่างที่น่าสนใจจากประเทศไทยคือโครงการ "Technology for Capturing Marine Debris" ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาโดยเยาวชน เพื่อดักจับขยะพลาสติกในทะเล ก่อนที่มันจะทำลายระบบนิเวศทางทะเลและสัตว์น้ำ โครงการลักษณะนี้สามารถขยายผลไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้

อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้ต้องการ การสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม
💰 เงินทุน เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้เกิดผลจริง
🎓 การฝึกอบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพและความรู้ของเยาวชน
🤝 เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อเชื่อมโยงแนวทางแก้ไขจากชุมชนท้องถิ่นสู่ระดับสากล

ทั้งนี้เยาวชนไม่ได้เป็นเพียงผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางทะเล แต่พวกเราคือ นักคิด นักพัฒนา และนักนวัตกรรม ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ด้วย พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่น เราสามารถสร้างเทคโนโลยีและแนวทางใหม่ ๆ เช่น

🔹 เทคโนโลยีที่สามารถดักจับขยะพลาสติกก่อนที่จะไหลลงสู่มหาสมุทร
🔹 การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ที่ไม่ทำลายระบบนิเวศทางทะเล
🔹 การฟื้นฟูแนวปะการังและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์

เพื่อให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง เราต้องลงทุนในนักนวัตกรรมด้านมหาสมุทรรุ่นใหม่
🏢 สร้างศูนย์บ่มเพาะ (Incubators) เพื่อช่วยพัฒนาแนวคิดของเยาวชนให้เป็นโครงการที่จับต้องได้
👨‍🏫 สนับสนุนที่ปรึกษาและเครือข่ายนักวิจัย (Mentors & Networks) เพื่อให้เยาวชนได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
🔬 จัดหาเงินทุนวิจัยและพัฒนา (Research Funding) เพื่อช่วยให้เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง

3.3 บทบาทในการอภิปรายในฐานะผู้นำเยาวชนสำหรับการประชุมหัวข้อ: วิกฤตสภาพภูมิอากาศ (Climate Crisis)  ประเด็นย่อย: การบรรเทาผลกระทบ (Mitigation), การปรับตัว (Adaptation), และความสามารถในการรับมือ (Resilience) โดยเยาวชนเป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อน 

ข้าพเจ้าขอเสริมประเด็นในการอภิปรายครั้งนี้โดยมุ่งเน้นไปที่สองประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

1. โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับตัวและรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งจำเป็น เราต้องมีโครงการที่ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพอากาศสุดขั้ว เช่น พายุรุนแรง คลื่นความร้อน และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น  โดยเยาวชนมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ โดยสามารถช่วย

• ทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัยภายในชุมชน เพื่อนำไปสู่การวางแผนที่เหมาะสม
• พัฒนาและเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นนวัตกรรม เช่น โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว เมืองอัจฉริยะ และระบบเตือนภัยล่วงหน้า

2.การพัฒนาระบบขนส่งที่ยั่งยืน

ระบบขนส่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่

• การพัฒนาและขยายระบบขนส่งสาธารณะ ที่เข้าถึงได้และมีประสิทธิภาพ
• การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขี่จักรยานที่ปลอดภัย เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
• การส่งเสริมการใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขนส่งพลังงานทางเลือก

เยาวชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ได้โดย
✅ เป็นแบบอย่างในการเลือกใช้พาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
✅ สนับสนุนและผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมระบบขนส่งที่ยั่งยืนในชุมชนของตน

4.บทสรุป

การประชุม APFSD ครั้งที่ 12 เป็นเวทีสำคัญที่ทำให้เยาวชนจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าหากเยาวชนได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม เราจะสามารถสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเท่าเทียมสำหรับทุกคนได้

หลักฐานการเข้าร่วมประชุมตามไฟล์ภาพที่แนบมาข้างใต้นี้ :